นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ริช พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดว่าเรื่องความเป็นส่วนตัวของท่านเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อเราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการให้ดำเนินธุรกิจและให้บริการกับท่าน ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เราในฐานะผู้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ตามกฎหมายในการแจ้งให้ท่านทราบถึงนโยบายความเป็นส่วนตัว ซึ่งอธิบายถึงการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และเรายืนยันว่าได้ดำเนินการตามกฎหมายฉบับนี้เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

1.ความหมายของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่

ข้อมูลส่วนบุคคล (ทั่วไป)หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของคนที่มีชีวิตอยู่ที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ email address หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Personal Data)ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ ซึ่งจำเป็นต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลประเภทนี้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญาพฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม และข้อมูลชีวภาพ

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่าน

ทางบริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของลูกบ้านเมื่อ:

  • ลูกบ้านเข้าเว็บไซต์ของทางบริษัทฯ
  • ลูกบ้านให้ข้อมูลกับทางบริษัทฯผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
  • ลูกบ้านให้ข้อมูลกับทางบริษัทฯผ่านการติดต่อสอบถามผ่านช่องทางออนไลน์ของเราหรือช่องทางปกติ

ทางบริษัทฯ เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านเท่าที่จำเป็นในการให้บริการกับทางบริษัทฯ เพื่อให้ลูกบ้านติดต่อสอบถามข้อมูล และเพื่อดำเนินธุรกิจในทางที่ลูกบ้านสามารถคาดหวังได้ว่าทางบริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านเพื่อการนั้น

ทางบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆ ของลูกบ้าน ซึ่งสามารถจำแนกเป็นกลุ่มได้ดังนี้

ข้อมูลการติดต่อ(Contact Data)ได้แก่ ข้อมูล เช่น ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, โครงการที่อยู่อาศัยที่ท่านอาศัย
ข้อมูลด้านเทคนิค(Technical Data)ได้แก่ ข้อมูล เช่น หมายเลข IP Address ของคอมพิวเตอร์, ชนิดของบราวเซอร์, การตั้งค่าเรื่องเขตเวลา (time zone), ที่ตั้ง (location), ระบบปฏิบัติการ, แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้เข้าเว็บไซต์
ข้อมูลการใช้งาน(Usage Data)ได้แก่ ข้อมูล เช่น หน้าเว็บไซต์ที่ท่านเข้าถึงก่อนที่ท่านจะเข้าสู่แพลตฟอร์ม, หน้าเว็บไซต์ที่ที่ท่านเข้าชม, จำนวนเวลาที่ท่านใช้ในการชมหน้าเว็บไซต์, สินค้าหรือข้อมูลที่ท่านค้นหาในแพลตฟอร์ม, เวลาและวันที่ข้าชมเว็บไซต์, ข้อมูลการกดดูเว็บไซต์
ข้อมูลการสื่อสาร (Communication Data)ได้แก่ ข้อมูล เช่น อีเมล, บันทึกข้อมูลสนทนา และข้อมูลในการสื่อสาร
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญา (Contract-related Data)ได้แก่ ข้อมูล เช่น เลขประจำตัวประชาชน, ที่อยู่, หมายเลขบัตรเครดิต, วันเดือนปีเกิด, เพศ

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

  • ทางบริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มาจากลูกบ้านโดยตรง ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
    • การให้ข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะที่เป็นลูกบ้านในโครงการที่อยู่อาศัย
    • ติดต่อกับทางบริษัทฯ เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านที่ทางบริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก (Third Party) ที่ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัทฯ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านจะไม่ถูกนำไปใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดหรือสั่งไว้ และทางบริษัทฯได้กำหนดให้บุคคลภายนอกต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้าน ตามมาตรฐานของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาจากคุกกี้ (Cookies) เมื่อลูกบ้านเข้าชมเว็บไซต์ของทางบริษัทฯ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ทางบริษัทฯสามารถจัดให้มีการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน เมื่อลูกบ้านใช้บริการ และ/หรือเข้าสู่แพลตฟอร์ม

4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านภายใต้ขอบเขตของกฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเก็บรวบรวมข้อมูลเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการดังกล่าว ทางบริษัทฯ จะจัดเก็บเพียงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการระหว่างลูกบ้านกับทางบริษัทฯที่เป็นการจำเป็น:

  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของทางบริษัทฯ (Legitimate Interests) หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลภายนอก หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของลูกบ้าน โดยที่ไม่ทำให้สิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านนั้นลดน้อยลง
  • เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ลูกบ้านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของลูกบ้านก่อนเข้าทำสัญญา
  • เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของทางบริษัทฯ หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

บริษัทฯ ได้สรุปการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านในการให้บริการกับทางบริษัทฯ พร้อมทั้งอธิบายฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรม (Lawful Basis of Processing) ที่ทางบริษัทฯ ใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในแต่ละกิจกรรมตามตารางข้างล่าง

วัตถุประสงค์ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรมประเภทข้อมูล
1) ให้บริการกับลูกบ้าน เพื่อการบริหารงานด้านนิติบุคคลในโครงการที่อยู่อาศัย1) เพื่อการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาให้บริการ2) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราในการให้บริการงานนิติบุคคลในโครงการ– ข้อมูลการติดต่อ- ข้อมูลการสื่อสาร
2) จัดการความสัมพันธ์กับลูกบ้านในฐานะลูกค้า (Customer Relations) โดยการสร้างบัญชีการใช้งานกับลูกบ้านในapplication เพื่อติดต่อสื่อสาร, จัดการธุรกรรมทางการเงิน หรือส่งข่าวสารทางการตลาด โดยลูกบ้าน สามารถยกเลิกการรับข้อมูลการตลาดได้ตลอดเวลา1) เพื่อการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา2) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของทางบริษัทฯ ในการดำเนินการตามคำร้องขอของลูกบ้าน ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานนิติบุคคลในโครงการ เช่น การชำระเงิน ค่าสาธารณูปโภคและค่าส่วนกลาง การแจ้งซ่อม และกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์กับลูกบ้าน– ข้อมูลการติดต่อ- ข้อมูลการสื่อสาร
3) เพื่อวิเคราะห์สถิติการใช้บริการ เพื่อนำมาพัฒนาการให้บริการของทางบริษัทฯ โดยไม่ทำการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่บ่งชี้ตัวตนของลูกบ้านเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของทางบริษัทฯ ในการนำข้อมูลมาพัฒนาบริการที่ให้กับลูกบ้าน– ข้อมูลการติดต่อ- ข้อมูลการสื่อสาร
4) เพื่อบริหารจัดการเว็บไซต์ของทางบริษัทฯ พัฒนาบริการ แก้ปัญหาในเชิงเทคนิคที่เกิดขึ้นในการใช้เว็บไซต์ และเพื่อเผยแพร่ความพึงพอใจของผู้ใช้งานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของทางบริษัทฯ ในการนำข้อมูลและสถิติการใช้งานเว็บไซต์ของลูกบ้านมาวางแผนธุรกิจเพื่อพัฒนาการให้บริการของทางบริษัทฯ เพื่อให้บริการลูกค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น– ข้อมูลการติดต่อ- ข้อมูลด้านเทคนิค
5) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในการพัฒนาเว็บไซต์ และพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในการรับบริการจากทางบริษัทฯเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของทางบริษัทฯ ในการกำหนดเป้าหมาย, ลักษณะการใช้งาน และการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกบ้าน– ข้อมูลด้านเทคนิค- ข้อมูลการใช้งาน
6) เพื่อบริหารงานด้านความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการบริหารงานด้านความปลอดภัย โดยมีการประเมินความเสี่ยงที่เหมาะสมไม่ให้รุกล้ำสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น กล้องวงจรปิด CCTV, ระบบการเก็บและสแกนอัตลักษณ์ (Biometrics), ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ และ/หรือ ระบบเทคโนโลยีอื่นใดอันอาจถูกติดตั้งและใช้ในอนาคตเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของลูกบ้านในการได้รับความปลอดภัยในการอยู่อาศัย– ข้อมูลการติดต่อ- ข้อมูลการสื่อสาร
7) เพื่อทำการตลาดแบบตรงกับท่านในการเสนอบริการอื่นที่ลูกบ้านอาจสนใจทางบริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในการให้เรานำข้อมูลส่วนบุคคลท่ลูกบ้านไปทำการตลาดแบบตรงสำหรับการเสนอบริการที่อาจสนใจ– ข้อมูลการติดต่อ

บริษัทฯ อาจใช้ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรมมากกว่าหนึ่งฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในแต่ละกิจกรรมของทางบริษัทฯ ที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้าน

5. การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านให้กับบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้
  • บริษัทในเครือ
  • แพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์
  • บริษัทหรือที่ปรึกษาด้านการตลาด
  • หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ที่ปรึกษาทางธุรกิจหรือทางวิชาชีพ

บริษัทฯ กำหนดให้บุคคลภายนอกที่เราเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านตามมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนด และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านได้เฉพาะตามวัตถุประสงค์ที่เราได้กำหนดหรือมีคำสั่งให้บุคคลภายนอกนั้นดำเนินการ บุคคลภายนอกจะไม่สามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้

  • เมื่อถูกร้องขอ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกันการข่มขู่ต่อชีวิตหรือร่างกาย เพื่อวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย การตั้งข้อหา การใช้สิทธิ์ปกป้องสิทธิทางกฎหมาย การป้องกันกรณีฉ้อโกง

6. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านในระบบงานสารสนเทศ และจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐานเพื่อให้ระบบงานสารสนเทศของบริษัทฯ และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านมีความปลอดภัยโดยมีมาตรการดังนี้

  • จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจจะเข้าถึงได้โดยพนักงาน ตัวแทน คู่ค้า หรือบุคคลภายนอก การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกจะสามารถทำได้ตามเท่าที่กำหนดไว้หรือตามคำสั่ง ซึ่งบุคคลภายนอกจะต้องมีหน้าที่ในการรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
  • จัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อความปลอดภัยเมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ทางกฎหมายและธุรกิจอีกต่อไป
  • มีกระบวนการจัดการกับกรณีละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีที่ต้องสงสัย และต้องแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
  • เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านไว้ในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการของบริษัทฯ และเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดโดยมาตรฐานทางบัญชี มาตรฐานทางกฎหมาย และกฎระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้อง
  • ในการกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล เราจะพิจารณาถึงจำนวน ลักษณะการใช้งาน วัตถุประสงค์ในการให้บริการ ความอ่อนไหวของข้อมูลส่วนบุคคล และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ และระยะเวลาที่กำหนดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านที่ได้มาจากคุกกี้ (Cookies) ในการเก็บข้อมูลเมื่อลูกบ้านเข้าใช้เว็บไซต์บริษัท จะเก็บไว้ไม่เกิน 13 เดือน หรือตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด

7. สิทธิของเจ้าของข้อมุลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ลูกบ้านมีสิทธิในการดำเนินการตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังต่อไปนี้

  • ลูกบ้านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw Consent) ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านอยู่กับบริษัทฯ
  • ลูกบ้านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้าน (Right of Access) และขอให้ทางบริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ลูกบ้าน รวมถึงขอให้ทางบริษัทฯเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกบ้านไม่ได้ให้ความยินยอมได้
  • ลูกบ้านมีสิทธิให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ (Right to Rectification)
  • ลูกบ้านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้ (Right to Erasure)
  • ลูกบ้านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Restriction of Processing)
  • ลูกบ้านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับทางบริษัทฯ ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวลูกบ้านเองด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Data Portability)
  • ลูกบ้านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Object)

ลูกบ้านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ DPO/เจ้าหน้าที่ฝ่ายของบริษัทฯ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้

8. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด

บริษัทฯ อาจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาดหรือให้บุคคลภายนอกที่มีข้อกำหนดหรือคำสั่งให้ดำเนินการเพื่อส่งข้อมูลข่าวสารล่าสุด ข้อเสนอพิเศษ สนับสนุนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทและบริษัทในกลุ่ม รวมถึงคู่ค้าทางธุรกิจ ในกรณีดังต่อไปนี้

  • ในกรณีที่บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกบ้านไปใช้ในการทำการตลาดแบบตรงกับลูกบ้าน บริษัทฯจะดำเนินการได้เฉพาะกรณีที่ลูกบ้านให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งกับบริษัทฯ และได้มีการแจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลลูกบ้านเพื่อการทำการตลาดแบบตรงนั้นแล้ว ทั้งนี้ ลูกบ้านสามารถยกเลิกการให้ความยินยอมกับทางบริษัทฯ ในเรื่องการทำการตลาดแบบตรงได้ตลอดเวลาโดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของบริษัทฯ
  • ในกรณีการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัท เช่น กิจกรรมการเล่นเกม หรือกิจกรรมในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของบริษัทฯ ให้บุคคลทั่วไปทราบ บริษัทฯจะไม่นำข้อมูลของลูกบ้านไปประมวลผลเพื่อทำการตลาดแบบตรง ยกเว้นลูกบ้านจะให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้บริษัทฯ นำข้อมูลส่วนบุคคลไปทำการตลาดแบบตรงได้ โดยจะแจ้งลูกบ้านถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลลูกบ้านเพื่อการทำการตลาดแบบตรง และลูกบ้านสามารถยกเลิกการให้ความยินยอมกับบริษัทฯในเรื่องการทำการตลาดแบบตรงได้ตลอดเวลาโดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของบริษัทฯ

9. นโยบายเรื่องคุกกี้ (Cookies)

Cookies คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของลูกบ้านที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของลูกบ้าน ลูกบ้านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่อง Cookies ได้จากhttps://www.allaboutcookies.org/

บริษัทฯ ใช้ Cookies ในการจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของลูกบ้านเพื่อช่วยให้เราสามารถจัดให้มีการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน เมื่อใช้บริการผ่านเว็บไซต์บริษัท โดยบริษัทใช้ Cookies ในกรณีดังต่อไปนี้

Cookies เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies): บริษัทใช้ Cookies ประเภทนี้เพื่อช่วยให้เราจดจำอุปกรณ์หรือบราวเซอร์ของลูกบ้านเพื่อให้เราสามารถจัดทำเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจส่วนบุคคลของลูกบ้านได้รวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริการและแพลตฟอร์มสะดวกสบายและเป็นประโยชน์ต่อลูกบ้านมากขึ้น ในการปิดใช้งาน Cookies นี้ ท่านสามารถตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณโดยดูวิธีการช่วยเหลือของเบราเซอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน

Cookies เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic cookies): เราใช้ Analytics Cookies ที่ให้บริการโดย Facebook และ Google เพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการให้ท่านผ่านการโฆษณาใน Social Media ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้บุคคลภายนอกเหล่านี้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถเลือกปิดการใช้งาน Cookies ลักษณะนี้บนหน้าเว็บไซต์เรา

10. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ Website อื่น

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของเราและการใช้งานเว็บไซต์ของเราเท่านั้นหากท่านได้กด link ไปยังเว็บไซต์อื่น (แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของเราก็ตาม) ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้นๆ แยกต่างหากจากของเรา

11. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะตรวจสอบประสิทธิภาพของนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำ ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว การเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวจะถูกประกาศหรือตีพิมพ์ไว้บนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มอื่นของเรา

12. ช่องทางการติดต่อ

รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล

บริษัท ริช พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด

สถานที่ติดต่อ : 868/38, ซอยเอกชัย102/3, แขวงบางบอนเหนือ, เขตบางบอน, กรุงเทพฯ , 10500

ช่องทางการติดต่อ : โทร. 02 125 0020